การอยู่ไฟ หลังคลอดเป็นสิ่งที่สำคัญที่ไม่ควรมองข้ามต้องดูแลอย่างใกล้ชิด
หากพูดถึงโรคที่เกี่ยวข้อเข่า หลายคนคงจะนึกถึงผู้เฒ่าผู้แก่ที่เดินไปก็ร้องโอดโอยเพราะเจ็บเข่าไป แต่อันที่จริงแล้วไม่ได้มีเพียงแค่วัยชราเท่านั้นที่มีความเสี่ยงในการเป็นโรค ข้อเข่าเสื่อม วัยทำงานเองก็มีความเสี่ยงไม่น้อยเช่นเดียวกัน แต่คุณอาจเป็นโรคนี้โดยไม่รู้ตัว Sanook! Health จึงถือโอกาสแนะนำสัญญาณอันตรายของโรคข้อเข่าเสื่อมในวัยทำงาน มาให้เพื่อนๆ ได้ลองเช็ค สุขภาพ ข้อเข่าของตัวเองกันค่ะ ข้อเข่าเสื่อม เกิดจากอะไร?
หนึ่งในโรคที่พบได้บ่อยของคนสูงวัยคือโรคข้อเข่าเสื่อม (Osteoarthritis) อันเกิดจากการใช้งานมาเป็นระยะเวลายาวนาน ทำให้มีการเสื่อมและทำให้เกิดผลกระทบทางสุขภาพตามมาได้ ข้อเข่าเสื่อมเป็นโรคที่หากปล่อยไว้นานอาจทำให้ขาผิดรูป และต้องผ่าตัดเปลี่ยนข้อเข่าได้ในที่สุด การรู้จักป้องกัน และหาวิธีรักษาที่เหมาะสม จึงเป็นสิ่งสำคัญที่จะทำให้เรารับมือกับโรคนี้ได้ทันท่วงที อาการข้อเข่าเสื่อมเกิดจากอะไร? ข้อเข่าเสื่อมนั้น เกิดจากการใช้เข่าเป็นเวลานานๆ ซึ่งเข่าจะทำหน้าที่รับน้ำหนักโดยหลักจากร่างกายส่วนบน ทำให้มีการลงน้ำหนักซ้ำๆ และเกิดการเสียดสี ปกติในข้อเข่าจะมีน้ำหล่อลื่นเพื่อช่วยลดการเสียดสี แต่เมื่ออายุของเรามากขึ้นน้ำในข้อจะลดลง ทำให้ข้อเข่าเสียดสีกันได้มากขึ้นและมีอาการของข้อเข่าเสื่อมตามมา ข้อเข่าเสื่อมอาการมีอะไรบ้าง?
ข้อเข่าเสื่อมคืออะไร?
เข่าเสื่อมเกิจากอะไร?? รู้จัก เข่าเสื่อม ก่อนสายเกินแก้ โดย คุณหมอโอ๊ค สวัสดีครับ พบกับผม หมอโอ๊ค กันอีกแล้วนะครับ ทุกคนเคยสงสัย หรือสังเกตมั้ยครับ ทำไม เวลาแก่ตัว อายุมากขึ้น เราถึง เดินเหินไม่ค่อยสะดวก ขยับเขยื้อนลำบาก เอาง่ายๆ เลยครับ ลองสังเกต คุณพ่อ คุณแม่ ญาติผู้ใหญ่ พออายุมากขึ้น เริ่มเดืนได้ช้าลง เคลื่อนไหวลำบาก ข้อเข่าบางท่านมีเสียง กร้อบแกร้บ บางท่านมีอาการบวม.
หลีกเลี่ยงการเดินขึ้นบันได ถ้าปวดเข่าข้างเดียว เวลาเดินขึ้นบันได ให้เดินขึ้นทีละขั้น โดยก้าวขาข้างดี (ไม่ปวด) ขึ้นก่อน แล้วยกขาข้างที่ปวดขึ้นตามไปวางบนขั้นที่ขาดีวางอยู่ (อย่าก้าวข้ามไป อีกขั้นหนึ่ง) ส่วนขาลงบันได ก็ก้าวขาข้างที่ปวด ลงก่อน แล้วก้าวขาดีตาม การเดินขึ้น-ลงบันได ทีละขั้นแบบนี้ ขาข้างที่ปวด จะไม่มีการงอเข่า จึงลดการปวดลงได้ ๓. ควรเปลี่ยนอิริยาบถจากนั่งเป็นยืน และ จากยืนเป็นนั่งสลับก่อนบ่อยๆเข้าจะได้ไม่ติดขัดมาก ๔. ถ้าปวดเข่ามาก ประคบด้วยผ้าชุบน้ำร้อน หรือลูกประคบ และกินยาพาราเซตามอล ครั้งละ ๑-๒ เม็ด บรรเทาปวด ซ้ำได้ทุก ๖ ชั่วโมง ๕. ถ้าเดินแล้วรู้สึกปวดเข่า หรือเข่าทรุด ควรใช้ไม้เท้าช่วย หรือมีราวเกาะ ๖. ถ้าน้ำหนักมาก ควรหาทางลดน้ำหนัก โดยการควบคุมอาหาร และออกกำลังกายให้มากขึ้น (เช่น เดินเร็ว ปั่นจักรยาน วิ่งเหยาะๆ) ๗. เมื่ออาการปวดเข่าทุเลาแล้ว ควรบริหารกล้ามเนื้อเข่าอย่างสม่ำเสมอ เริ่มแรกไม่ต้องถ่วง น้ำหนัก ต่อไปค่อยๆ ถ่วงน้ำหนัก (เช่น ใส่ถุงทราย หรือขวดน้ำใส่ในถุงพลาสติก) ที่ปลายเท้า เริ่มจาก ๐. ๓ กิโลกรัม เป็น ๐. ๕ กิโลกรัม, ๐. ๗ กิโลกรัม และ ๑ กิโลกรัม โดยเพิ่มไปเรื่อยๆ ทุก ๒-๓ สัปดาห์ จนยกได้ ๒-๓ กิโลกรัม ข้อเข่าก็จะแข็งแรง และลดอาการปวด ๘.
เกรียงศักดิ์ เล็กเครือสุวรรณ แพทย์ผู้ชำนาญการด้านคลินิกระงับปวด และผ่าตัด ข้อสะโพก ข้อเข่า ข้อไหล่ ศูนย์ศัลยกรรมออร์โธปิดิกส์เฉพาะทาง ชั้น 2 โรงพยาบาลเวิลด์เมดิคอล ถนนแจ้งวัฒนะ (WMC) โทร 02 836 9999 ต่อ 2621-3 หรือ Line: @wmcortho