2482 จึงเปลี่ยนเป็นชุดเสื้อกระโปรงติดกัน ตัดเย็บด้วยผ้าไหมของไทย เสื้อเปิดหลัง กางเกง กระโปรงยาวถึงเข่า และได้เพิ่มการสวมใส่ชุดกีฬา กางเกงขาสั้น เสื้อแขนกุดเปิดหลังในปีถัดมา ในยุคที่ 1 จัดการประกวดที่พระราชอุทยานสราญรมย์ ประเทศไทย มีผู้ได้รับเลือกเป็น "นางสาวสยาม" จำนวน 5 คน และ "นางสาวไทย" จำนวน 2 คน เนื่องจากรัฐธรรมนูญฉบับแก้ไขครั้งที่ 1 ว่าด้วยนามของประเทศ พ. 2482 กำหนดเรียกนามของประเทศว่าประเทศไทย ตามบทบัญญัติแห่ง รัฐธรรมนูญ หรือกฎหมายอื่นใด ซึ่งใช้คำว่า "สยาม" ให้ใช้คำว่า "ไทย" แทน ดังนั้น การประกวด "นางสาวสยาม" จึงเปลี่ยนมาใช้การประกวด "นางสาวไทย" นับตั้งแต่ พ. 2482 ขณะที่รัฐบาลกำลังเตรียมจัดงานฉลองรัฐธรรมนูญ พ. 2484 ซึ่งกำหนดเริ่มในวันที่ 8 ธันวาคม แต่ในเช้าตรู่วันที่ 8 ธันวาคมนั้น กองทัพญี่ปุ่นได้ยกพลขึ้นบกที่ชายฝั่งหลายแห่ง มีการสู้รบกันที่ บางปู สมุทรปราการ อ่าวมะนาว ประจวบคีรีขันธ์ ชุมพร ปัตตานี ฯลฯ ประเทศไทยเข้าสู่สภาวะสงคราม งานฉลองรัฐธรรมนูญในปีนั้นจึงถูกยกเลิกทันที และไม่มีการจัดงานไปจนสงครามสงบ พ. 2491-2497 หลังสงครามสงบ ใน พ. 2488 พระนครบอบช้ำจากการทิ้งระเบิดของฝ่ายสัมพันธมิตรมาก ต้องใช้ระยะเวลาฟื้นฟูอยู่ระยะหนึ่ง จนถึงปี พ.
2542 กรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่นได้รับจัดสรรเงินอุดหนุนเฉพาะกิจจากสำนักงบประมาณ สำหรับพัฒนาองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นกรณีเร่งด่วน ปีงบประมาณ 2556 โครงการก่อสร้างสนามกีฬาอเนกประสงค์ในเขตอำเภอฝางและอำเภอแม่อาย จังหวัดเชียงใหม่ จำนวน 19, 935, 000 บาท และ 12, 548, 000 บาท ตามลำดับ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นในจังหวัดเชียงใหม่ได้มีการขอรับการสนับสนุนงบประมาณผ่านกรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่นไปยังสำนักงบประมาณตามลำดับ นายประสิทธิ์ วุฒินันชัย เมื่อครั้ง ส. เขต 5 (อำเภอฝางและอำเภอแม่อาย) ในขณะนั้น ได้นำกลุ่มบริษัทของนางสาวอัมพวัน แก้วนพมาศ เข้าเป็นคู่สัญญากับองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นในพื้นที่อำเภอฝางและอำเภอแม่อาย โดยนายประสิทธิ์ ได้เรียกรับเงินตอบแทนจากกลุ่มบริษัทของนางสาวอัมพวัน จำนวนร้อยละ 25 ของงบประมาณที่ได้รับจัดสรร ซึ่งเป็นเงิน 7.
2542 พ. 2543-2559 เนื่องจากเกิดปัญหาเรื่องสิทธิประโยชน์ในชื่อ "นางสาวไทย" ซึ่งเจ้าของลิขสิทธิ์คือสมาคมนักเรียนเก่าวชิราวุธฯ กับเจ้าของสิทธิ์ในการจัดการประกวดคัดเลือกตัวแทนสาวไทยไปประกวด นางงามจักรวาล คือ คุณ สุรางค์ เปรมปรีดิ์ ผู้บริหารสถานีโทรทัศน์กองทัพบกช่อง 7 ในขณะนั้น ทั้งสองฝ่ายจึงได้แยกกันจัด โดยทางสมาคมนักเรียนเก่าวชิราวุธฯ ยังจัดการประกวดนางสาวไทยต่อไป แต่นางสาวไทยไม่ได้สิทธิ์ไปประกวดนางงามจักรวาล และสมาคมนักเรียนเก่าวชิราวุธฯ ได้ให้สถานีโทรทัศน์ไอทีวี เป็นผู้ดำเนินการจัดการประกวด ต่อมาก็ย้ายไปจัดร่วมกับ บริษัท อสมท จำกัด (มหาชน) โดย สถานีโทรทัศน์โมเดิร์นไนน์ ตั้งแต่ปี พ.
ยุคที่หนึ่ง นางสาวไทย ตัวแทนแห่งรัฐธรรมนูญ สมัยนั้นเรียกว่า นางสาวสยาม เริ่มต้นเมื่อปี พ. ศ. 2477 ถึง 2483 และได้หยุดจัดเนื่องจากสงครามโลกครั้งที่ 2 และจัดขึ้นใหม่อีกครั้งเมื่อ ปี 2491 ถึง 2497 โดยจัดขึ้นเพื่อเฉลิมฉลองรัฐธรรมนูญให้ประชาชนมาสนใจรัฐธรรมนูญซึ่งเกิดขึ้นในยุคนั้นรวมถึงการส่งเสริมนโยบายการสร้างชาติและพัฒนาสตรี นางสาวสยามคนแรกคือ คุณกันยา เทียนสว่าง ยุคที่สอง นางสาวไทยตัวแทนแห่งสยามประเทศ ปี พ. 2507 ถึง 2516 ประเทศไทยเริ่มมีการเปลี่ยนแปลงการเมืองและพัฒนาประเทศแบบทุนนิยมเริ่มมีอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวมีความสัมพันธ์ระหว่างประเทศไทยกับสหรัฐอเมริกามากขึ้นผู้ที่ได้ประกวดนางสาวไทยในปีแรกของยุคนั้นคือ คุณอภัสรา หงสกุล และต่อมาได้รับเชิญจากบริษัทมิสยูนิเวอร์สไปประกวดที่สหรัฐอเมริกาเป็นครั้งแรกและคว้ามงกุฎนางงามจักรวาลกลับมาประเทศไทย เป็นคนแรก การประกวดในยุคนั้นจัดขึ้นในงานวชิราวุธานุสรน์ วังสราญรมย์ จึงเป็นหนึ่งในเหตุผลที่สมาคมนักเรียนเก่าวชิราวุธวิทยาลัย ได้เป็นเจ้าของสิทธิในการประกวดนางสาวไทยต่อเนื่องมาจนถึงทุกวันนี้ ยุคที่ สามนางสาวไทยในระดับสากลปี พ. 2527 ถึง 2542 ยุคนี้เป็นการประกวดเพื่อคัดเลือกผู้ที่เข้าดำรงตำแหน่งนางสาวไทยเข้าร่วมประกวดมิสยูนิเวอร์ส ซึ่งเป็นการประกวดที่มีการถ่ายทอดสดผ่านโทรทัศน์เป็นครั้งแรกการจัดงานเป็นเชิงพาณิชย์ไม่เหมือนกับ ยุคที่หนึ่งและยุคที่สอง ผู้เข้าประกวดเน้นไปที่ความรู้ความสามารถ ไหวพริบ รวมถึงระดับความสูงที่จะไปแข่งขันในเวทีมิสยูนิเวอร์ส ยุคที่สี่ นางสาวไทยตัวแทน แห่งศักดิ์ศรีสตรีไทย เริ่มพ.