อ่านแล้ว 34, 781 ครั้ง ตั้งแต่วันที่ 21/08/2562 อ่านล่าสุด 1 ช. ม. ที่แล้ว Scan เพื่ออ่านบนมือถือของคุณ โรคเกาต์ (gout) และโรคเกาต์เทียม (pseudogout) เป็นชนิดของโรคข้ออักเสบ (inflammatory arthritis diseases) ซึ่งเกิดมีสาเหตุจากผลึกเกลือ (crystal-induced arthritis) ที่ก่อให้เกิดอาการปวด บวม ร้อนแดง ที่บริเวณข้อของร่างกาย โดยเมื่อพิจารณาจากเฉพาะอาการปวดแล้วอาจไม่สามารถจำแนกชนิดของโรคได้ แต่ในความเป็นจริงแล้วโรคทั้งสองชนิดมีสาเหตุการเกิดโรคที่แตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง ดังนั้นหากวินิจฉัยโรคได้ไม่ถูกต้องจะทำให้รักษาไม่ถูกต้องตามไปด้วย 1. 1. โรคเกาต์และโรคเกาต์เทียมเกิดจากสาเหตุใด" สาเหตุหลักของโรคเกาต์เกิดจากภาวะกรดยูริกในเลือดสูง ซึ่งหมายถึงภาวะที่ร่างกายมีระดับกรดยูริกในเลือด (serum uric acid, SUA) สูงกว่าปกติ (สูงกว่า 7 มก. /ดล. )
ยินดีต้อนรับสู่เว็บไซต์สมาคมรูมาติสซั่มแห่งประเทศไทย Welcome to Thai Rheumatism Association: TRA สมาคมรูมาติสซั่มแห่งประเทศไทย ก่อตั้งขึ้นตั้งแต่ปี พ. ศ. 2515 โดยกลุ่มแพทย์ที่สนใจในการรักษาผู้ป่วยโรคข้อ ซึ่งประกอบด้วยอายุรแพทย์ ศัลยแพทย์ และแพทย์เวชศาสตร์ฟื้นฟู ร่วมกันก่อตั้งเป็นชมรมที่ชื่อว่า ชมรมรูมาติสม์แห่งประเทศไทย หลังจากนั้นสมาชิกได้เพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ จนในปี พ. 2528 ได้จัดตั้งเป็น "สมาคมรูมาติสซั่มแห่งประเทศไทย" โดยมีวัตถุประสงค์ดังต่อไปนี้ 1. ส่งเสริมวิทยาการ การวิจัย การค้นคว้า การแลกเปลี่ยนความรู้ และความคิดเห็น เกี่ยวกับวิชาการกลุ่มโรครูมาติสซั่มและสาขาวิชาที่เกี่ยวข้อง 2. เผยแพร่ความรู้เกี่ยวกับกลุ่มโรครูมาติสซั่มแก่แพทย์ บุคลากรทางการแพทย์ และประชาชนทั่วไป 3. ส่งเสริมความร่วมมือ จรรยาแพทย์ และความสามัคคีระหว่างแพทย์ ซึ่งปฏิบัติงานในวิชาแขนงนี้และแพทย์ในสาขาวิชาอื่น ๆ 4. ร่วมมือกับสมาคมหรือองค์กรทางด้านกลุ่มโรครูมาติสซั่มและสาขาวิชาที่เกี่ยวข้อง 5. สนับสนุนและธำรงไว้ซึ่งชื่อเสียงเกียรติคุณของสมาชิกและสาขาวิชาชีพนี้ 6. ไม่เกี่ยวข้องกับการเมือง
Skip to content หน้าแรก เกี่ยวกับสมาคม กรรมการบริหารสมาคม ข่าวสารและกิจกรรม ปฎิทินสมาคม ห้องสมุดสมาคม ติดต่อสมาคม 10 มีนาคม 2018 15 มกราคม 2020 Webmaster เบาหวาน, เเนวทางเวชปฏิบัติ หนังสือแนวทางเวชปฏิบัติสำหรับโรคเบาหวาน 2560 ฉบับของแท้ จากสมาคมโรคเบาหวานแห่งประเทศไทยฯ load ฟรี /cpg/443-guideline-diabetes-care-2017 ไม่สามารถนำไปใช้อ้างอิงได้ แชร์บทความ
แนวทางรักษาโรคความดันโลหิตสูง ในเวชปฏิบัติทั่วไป พ. ศ. 2562 โดยสมาคมความดันโลหิตสูงแห่งประเทศไทย Thai Hypertension Society: Guidelines in the Treatment of Hypertension 2019 คลิกที่นี่เพื่อ Download ไฟล์ Guideline ฉบับเต็ม
โรคทั้งสองชนิดทำให้เกิดอาการข้ออักเสบเหมือนกันหรือไม่ โรคทั้งสองชนิดก่อให้เกิดอาการปวดและอักเสบได้เหมือนกัน โดยโรคเกาต์จะก่อให้เกิดอาการข้ออักเสบเฉียบพลัน บริเวณหัวมือเท้า ข้อโคนนิ้วหัวแม่เท้าแรก (first metatarsophalangeal joint (MTP1) หรือ podagra) นอกจากนั้นพบอาการปวดได้ที่บริเวณข้อนิ้วมือ ข้อมือ ข้อศอก ข้อเท้าและข้อนิ้วเท้า เป็นต้น ขณะที่โรคเกาต์เทียมมักจะก่อให้เกิดอาการปวดที่บริเวณข้อใหญ่ ๆ เช่น หัวเข่า (พบมากที่สุด) ข้อเข่า ข้อมือ และข้อไหล่ เป็นต้น 3. อะไรเป็นปัจจัยเสี่ยงทำให้เกิดโรคเกาต์และเกาต์เทียม ปัจจัยเสี่ยงของการเกิดโรคเกาต์และเกาต์เทียมสรุปดังตารางที่ 1 4.
0 มก. /ดล. และเพศหญิงวัยก่อนหมดประจำเดือนคือ 6. หรือมีระดับกรดยูริกในเลือดสูงกว่า 6. 8 มก. เมื่ออิงตามคุณสมบัติทางเคมี อาการของโรคเกาต์ 1. ระยะข้ออักเสบเฉียบพลัน ลักษณะเด่นของโรคในระยะนี้ คือ การเกิดข้ออักเสบเฉียบพลันที่บริเวณข้อในส่วนล่างของร่างกาย โดยครั้งแรกมักเกิดที่บริเวณหัวแม่เท้าข้างใดข้างหนึ่งหรือที่ตำแหน่งข้อเท้า 2. ระยะที่ไม่มีอาการข้ออักเสบและระยะเป็นซ้ำ ในระยะนี้ผู้ป่วยจะมีอาการปกติทุกอย่าง มักมีประวัติข้ออักเสบระยะเฉียบพลันมาก่อน ระยะเวลาตั้งแต่การมีข้ออักเสบครั้งแรกถึงระยะต่อไปอาจกินเวลาแตกต่างกันในแต่ละราย หากไม่ได้รับการรักษาอาจมีโอกาสเกิดข้ออักเสบซ้ำภายใน 1 - 2 ปี เมื่อเป็นซ้ำบ่อยๆ จำนวนข้ออักเสบจะเพิ่มมากขึ้นและรุนแรงมากขึ้น ระยะเวลาในแต่ละครั้งที่มีข้ออักเสบยาวนานขึ้น อาจมีอาการทางกายอื่นๆ ร่วมด้วย เช่น อาการไข้ 3. ระยะข้ออักเสบเรื้อรังจากโรคเกาต์ ลักษณะจำเพาะ คือ พบข้ออักเสบหลายข้อแบบเรื้อรังร่วมกับการตรวจพบก้อนที่เกิดจากการสะสมของผลึกยูเรตตามเนื้อเยื่อต่างๆ หรือเรียกว่า โทฟัส (tophus) บางครั้งอาจแตกออกมาเห็นเป็นสารสีขาวคล้ายชอล์ก ตำแหน่งที่พบโทฟัสได้บ่อยนอกจากบริเวณนิ้วหัวแม่เท้าและข้อเท้า คือ ปุ่มปลายศอก เอ็นร้อยหวาย ปลายนิ้ว และอาจพบที่ใบหูร่วมด้วย ในระยะนี้จะพบข้ออักเสบหลายข้อ และอาจมีไข้จากการอักเสบได้ การรักษาโรคเกาต์ 1.