งบทดลอง (Trial Balance) หมายถึง งบการเงินที่ทำขึ้นเพื่อพิสูจน์ความถูกต้องของการบันทึกบัญชี จากการบันทึกรายการค้าในสมุดรายวันทั่วไป การผ่านรายการจากสมุดรายวันทั่วไปไปบัญชีแยกประเภท และการหายอดคงเหลือด้วยดินสอ จากรายการค้าทุกรายการ ผลรวมด้านเดบิต ของทุกบัญชีควรจะต้องเท่ากับผลรวมด้านเครดิตของทุกๆ งบทดลอง คือ (Trial Balance) (Visited 2, 014 times, 1 visits today) แนะแนวเรื่อง
เขียนหัวงบทดลอง ซึ่งประกอบด้วย 1) ชื่อกิจการ 2) ชื่องบทดลอง และ 3) วัน-เดือน-ปี ที่จัดทำงบทดลอง 2. หายอดคงเหลือในบัญชีแยกประเภททั่วไป 3. นำยอดคงเหลือของทุกบัญชีในสมุดบัญชีแยกประเภท มาบันทึกลงในงบทดลองใส่ในช่องเดบิตและเครดิต โดยให้เรียงลำดับตามหมวดบัญชี และเลขที่บัญชี เริ่มจาก 1) สินทรัพย์ 2) หนี้สิน 3) ทุน 4) รายได้ และ 5) ค่าใช้จ่าย พร้อมใส่จำนวนเงินตามยอดดุลบัญชีนั้นๆ 4. ใส่ยอดคงเหลือให้ถูกหมวดหมู่ประเภทบัญชี ถ้าหากยอดคงเหลือในบัญชีแยกประเภทเหลืออยู่ทางด้านเดบิต ให้นำไปใส่ช่องเดบิต แต่ถ้ายอดคงเหลือในบัญชีแยกประเภทเหลืออยู่ทางด้านเครดิต ให้นำไปใส่ช่องเครดิต 5. รวมจำนวนเงินในเดบิตและเครดิต ยอดรวมของด้านเดบิตต้องเท่ากับด้านเครดิตเสมอ จะถือว่าถูกต้องตามหลักการบัญชีคู่ เมื่อยอดคงเหลือในงบทดลองไม่ลงตัวทำอย่างไรได้บ้าง หลังจากหายอดรวมทางด้านเดบิตและเครดิตแต่ละฝั่งได้แล้ว ผลรวมด้านเดบิตของทุกบัญชี จะต้องเท่ากับผลรวมด้านเครดิตในงบทดลองเสมอ แต่หากกิจการหายอดรวมทางด้านเดบิตและเครดิตได้จำนวนเงินรวมที่ไม่เท่ากัน สามารถตรวจสอบข้อผิดพลาดได้จาก 3 หลักการดังนี้ 1. ข้อผิดพลาดในงบทดลอง อาจเกิดจากกิจการบันทึกรายการผิดด้าน ใส่จำนวนเงินผิดพลาด หรือการบวกเลขผิดพลาด 2.
การบันทึกบัญชี: สมุดรายวันทั่วไป: บัญชีแยกประเภท: งบทดลอง: ครูบอน สอนบัญชี (บัญชีอีซี่) 1/2 - YouTube
หมวดสินทรัพย์ จะต้องมียอดคงเหลือด้านเดบิต 2. หมวดหนี้สิน จะต้องมียอดคงเหลือด้านเครดิต 3. หมวดส่วนของเจ้าของ (ทุน) จะต้องมียอดคงเหลือด้านเครดิต 4. หมวดรายได้ จะต้องมียอดคงเหลือด้านเครดิต 5. หมวด ค่าใช้จ่าย จะต้องมียอดคงเหลือด้านเดบิต ส่วนประกอบของการจัดทำงบทดลอง ส่วนประกอบต่างๆ ในแบบฟอร์มงบทดลอง ที่กิจการต้องใส่ข้อมูลตัวเลขลงไป ตามหลักของการบันทึกที่ถูกกำหนดไว้นั้น จะประกอบไปด้วย… 1. หัวข้อ ให้ระบุชื่อและวันเวลาของรอบการทำงบทดลอง ซึ่งประกอบด้วย – บรรทัดที่ 1 ใส่ชื่อกิจการ – บรรทัดที่ 2 ใส่คำว่า งบทดลอง – บรรทัดที่ 3 ใส่ วัน-เดือน-ปี 2. ตาราง ให้ใส่ตัวเลขที่ได้บันทึกไว้จากบัญชีต่างๆ ซึ่งประกอบไปด้วยช่องตารางย่อย คือ – ช่องที่ 1 ระบุชื่อบัญชีที่ถูกแยกประเภทตามหมวดหมู่ของบัญชีทั้ง 5 หมวด – ช่องที่ 2 ระบุเลขที่บัญชีตามการแยกหมวดบัญชีทั้ง 5 หมวดเช่นกัน (การระบุเลขที่บัญชีจะช่วยให้การค้นหาบัญชีต่างๆ ในระบบทำได้ง่ายขึ้น) – ช่องที่ 3 ระบุรายละเอียดตัวเลขที่จัดอยู่ในกลุ่มของบัญชีเดบิต (Debit) โดยแบ่งออกเป็นช่องที่ระบุหน่วยเงินที่เป็นบาทและสตางค์ – ช่องที่ 4 ระบุรายละเอียดตัวเลขบัญชีที่จัดอยู่ในกลุ่มของบัญชีเครดิต (Credit) โดยแบ่งออกเป็นช่องที่ระบุหน่วยเงินที่เป็นบาทและสตางค์ วิธีการจัดทำงบทดลอง 1.
ตรวจสอบจากการบวกยอดรวมจำนวนเงินในช่องเดบิตและช่องเครดิต 2. ตรวจสอบว่า นำบัญชีมาลงในงบทดลองครบถ้วน ด้วยจำนวนเงินที่ถูกต้องทั้งด้าน เดบิตและด้านเครดิต 3. ตรวจสอบการคำนวณหายอดดุลของทุกบัญชีว่าถูกต้อง 4. ตรวจสอบการผ่านบัญชีจากสมุดรายวันไปยังบัญชีแยกประเภทว่า ได้ผ่านบัญชีถูกต้อง ถูกด้านและจำนวนเงินถูกต้อง 5. ตรวจสอบการบันทึกรายการในสมุดรายวันว่าได้บันทึกด้วยจำนวนเงินถูกต้องตามเอกสารและบันทึกด้านเดบิตเท่ากับด้านเครดิตตามหลักบัญชีคู่ อย่างไรก็ตาม การหายอดผิดเนื่องจากงบทดลองไม่ลงตัว นักบัญชีต้องใช้วิธีการตรวจสอบอย่างละเอียดตามลำดับที่ได้กล่าวข้างต้น
กิจการจ่ายค่าเช่า 1 ปี ได้ทำสัญญาเช่าเมื่อวันที่ 1 กันยายน 25X6 2. ค่าเบี้ยประกันเป็นค่าใช้จ่ายของปีนี้เพียง 8, 000 บาท 3. วัสดุสำนักงานคงเหลือในวันสิ้นงวดตรวจนับได้ 2, 340 4. กิจการคิดค่าเสื่อมราคาอุปกรณ์สำนักงานใช้วิธีเส้นตรง อายุการใช้งาน 10 ปี และรถบรรทุกคิดค่าเสื่อมราคา 20% ต่อปี 5. เงินกู้ กู้มาเมื่อวันที่ 1 สิงหาคม 25X6 ยังไม่ได้จ่ายดอกเบี้ย 6. เงินเดือนค้างจ่าย ณ วันสิ้นงวดจำนวน 9, 900 บาท 7. ประมาณการหนี้สงสัยจะสูญ 5% ของยอดลุกหนี้คงเหลือสิ้นปี ให้ทำ 1. รายการปรับปรุงบัญชีในสมุดรายวันทั่วไป 2.
การจัดทำงบทดลอง ขั้นตอนในการจัดทำงบทดลอง มีดังนี้ 1. 1 เขียนหัวงบทดลอง มี 3 บรรทัด โดยเขียนให้ได้ดุลกัน 1. บรรทัดแรกเขียนชื่อกิจการ 2. บรรทัด 2 เขียนคำว่า " งบทดลอง " 3. บรรทัด 3 เขียน วันเดือนปี ที่ทำงบทดลอง 1. 2 เขียนชื่อบัญชีที่มียอดคงเหลือในช่องชื่อบัญชี และนำจำนวนเงินคงเหลือที่เขียนด้วยดินสิดำในช่องของรายการบัญชีแยกประเภท ยอดรวม หรือยอดของบัญชีนั้นๆ (ตามตัวอย่างที่ 1, 2, 3, และ 4) มาเขียนลงในงบทดลองให้ครบทุกบัญชีโดยเรียงตามหมวดบัญชีทั้ง 5 หมวด ถ้าเป็นยอดคงเหลือ เดบิต ใส่ในงบทดลองด้านเดบิต เครดิต ใส่ในงบทดลองด้านเครดิต ถ้าไม่มียอดคงเหลือ ไม่ต้องนำบัญชีนั้นมาเขียนก็ได้ 1.